นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดจากความต้องการสินค้าของประเทศคู่ค้าที่เพิ่มขึ้น และมาตรการสนับสนุนของรัฐบาล ทำให้ในเดือนก.พ. 65 ราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว น้ำตาลทรายดิบ มันสำปะหลัง สุกร กุ้งขาวแวนนาไม และโคเนื้อ มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้น ด้านข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และยางพาราดิบ ชั้น 3 มีแนวโน้มราคาปรับลดลง
สำหรับราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ในเดือนก.พ. 65 ได้แก่
-ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่ 7,957-8,209 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.45- 3.64% เนื่องจากประเทศอินเดียผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกประสบปัญหาขาดแคลนรถไฟบรรทุกสินค้า ทำให้ไม่สามารถส่งออก
-ข้าวตามคำสั่งซื้อได้ทั้งหมด ประเทศคู่ค้าบางรายจึงเปลี่ยนมาซื้อข้าวจากไทยทดแทน
-ข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ ราคา 11,229-11,371 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 3.00-4.30%
-ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 8,922-9,391 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.69-5.99%
เนื่องจากภาครัฐดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2564/65 เพื่อชะลอการขายข้าวที่ออกสู่ตลาดในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาข้าวหอมมะลิ และข้าวเหนียวปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับเงินบาทยังคงอ่อนค่า จึงทำให้ประเทศคู่ค้ามีความสนใจสั่งซื้อข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น
-น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาอยู่ที่ 19.12-19.98 เซนต์/ปอนด์ (13.92-14.54 บาท/กก.) เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1.16-5.71% เนื่องจากทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อราคาเอทานอล และอาจจูงใจให้โรงงานน้ำตาลในบราซิลนำอ้อยไปผลิตเอทานอลมากกว่าน้ำตาลทราย อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยกดดันราคาน้ำตาลจากปริมาณผลผลิตอ้อยที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากประเทศอินเดีย และไทย
-มันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 2.27-2.34 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.44-3.54% เนื่องจากความต้องการใช้มัน-สำปะหลังของประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะจีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
-สุกร ราคา 99.51-101.44 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.57-2.52% เนื่องจากปริมาณผลผลิตเนื้อสุกรยังคงอยู่ในระดับต่ำ จากปัญหาการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African swine fever : ASF) ประกอบกับรัฐบาลควบคุมการนำเข้าเนื้อสุกรจากต่างประเทศ เพื่อป้องกันการเกิดโรคระบาด ASF อย่างไรก็ตาม ภาครัฐได้ออกคำสั่งห้ามกักตุนหรือฉวยโอกาสขึ้นราคาเนื้อสุกรจะถูกดำเนินคดีขั้นสูงสุด
-กุ้งขาวแวนนาไม ราคาอยู่ที่ 178.78-185.12 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.44-4.01% เนื่องจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ และการกลับมาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในแบบ Test & Go อีกครั้งภายในเดือนก.พ. 65 จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ความต้องการบริโภคกุ้งเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลผลิตกุ้งลดลง จากปัญหาต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรลดปริมาณการเลี้ยงกุ้ง
-โคเนื้อ ราคาอยู่ที่ 99.20-101.00 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.05-1.86% เนื่องจากปัญหาเนื้อสุกรราคาสูง และยังไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ราคาเนื้อประเภทอื่นที่เป็นสินค้าบริโภคทดแทนเนื้อสุกรมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการบริโภคเนื้อโคปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง ในเดือนก.พ. 65 ได้แก่
-ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาอยู่ที่ 8.72-8.77 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 0.11-0.68% เนื่องจากสัญญาราคาส่งมอบข้าวสาลีปรับลดลงจากการขายออกทำกำไร จึงคาดว่าผู้ประกอบการจะนำเข้าข้าวสาลี เพื่อเป็นวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์เพิ่มขึ้นทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ราคาสูง ส่งผลให้ความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศลดลง
-ปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 8.64-9.03 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 13.50-17.27% เนื่องจากเดือนก.พ. ผลผลิตปาล์มน้ำมันรอบใหม่เริ่มทยอยออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับรัฐบาลตรึงราคาน้ำมันปาล์มเพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวด เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งผู้ประกอบการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
-ยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 50.19-51.31 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อน 1.83-3.98% เนื่องจากราคายางพาราล่วงหน้าตลาดโตเกียวมีแนวโน้มลดลง (ราคายางพาราล่วงหน้าตลาดโตเกียวส่วนหนึ่งถูกใช้เพื่อการเก็งกำไร) จากการที่นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 65 เพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมากกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ราคายางพารายังเคลื่อนไหวลดลงไม่มาก จากราคาน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มสูงขึ้น เพราะปริมาณความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของโลก จะกลับมาสู่ระดับใกล้เคียงหรือมากกว่าก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19